ถ้าหากจะให้พูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางภาคตะวันออกแล้ว “จังหวัดจันทบุรี”
ก็เรียกได้ว่า เป็นจังหวัดอันดับต้นๆเลยก็ว่าได้ เนื่องด้วยจังหวัดนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย
ทั้งบนบกและทางน้ำ อีกทั้งยังมีแหล่งอาหารคาว-หวานมากมาย
ให้เพื่อนๆได้เลือกบริโภคกัน วันนี้ บิ๊กแมพไทยเเลนด์ ขอนำเสนอ 16 สถานที่ท่องเที่ยวในจันทบุรี
ที่สามารถตะลอน กิน เที่ยว พัก ทั่วไทย ไปกับบิ๊กแมพไทยแลนด์
เอ๊…ว่าแต่จะมีสถานที่ไหนกันบ้างน๊า ไปชมพร้อมๆกันเล้ยยย
ร้อน! น้ำไหลไฟดับกันเลยทีเดียวครับ กับอากาศบ้านเมืองเราในเวลานี้
หากคุณผู้ชมกำลังมองหาสถานที่ “พักผ่อนหย่อนใจ” หลังจาก ลุยงานลำบากตรากตรำมาเป็นเวลาเนิ่นนาน
วันนี้บิ๊กแมพรีวิว ขอนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองจันทบุรีมากนัก
แต่ต้องบอกก่อนเลยนะครับว่า เป็นสถานที่ๆไปแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน
สำหรับสายลุย สายธรรมชาติ ท่านสามารถเดินชมป่าและเล่นน้ำตกได้
Location : น้ำตกพลิ้ว จ.จันทบุรี Namtok Phlio National Park
สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดจันทบุรี จุดเด่นของที่นี้คือ เป็นจุดวิวสองฝากฝั่งทะเล
หรือมีชื่อที่เรียกกันติดปากกันว่า “สะพานแหลมสิงห์” เป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างตำบลบางกะไชย
กับตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ มีระยะความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร
สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2550สะพานตากสินมหาราช จันทบุรี
ลักษณะจะเป็นหินที่ค่อนข้างจะซับซ้อน โผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำทะเล อีกทั้ง
บริเวณนั้นมีลานจอดรถได้หลายสิบคัน ทั้งรถส่วนตัวหรือรถทัวร์
Location : หินโคร่ง
เรียกได้ว่า เป็นอีกหนึ่งจุดไฮไลท์ของจังหวัดนี้เลยก็ว่าได้ครับ ที่ใครมาเที่ยวที่จังหวัดจันทบุรีแล้ว
ไม่ควรพลาดที่จะหาโอกาสมาเยี่ยมเยือน ถ่ายรูปเซลฟี่ ณ สถานที่แห่งนี้
ทั้งนี้เพราะสถานที่แห่งนี้ สามารถมองเห็นวิวได้กว้างมาก ตั้งแต่วิวถนน ที่เป็นรูปเอสเคิฟ
โค้งสวยงาม หรือจะมองเห็นภูเขาที่เป็นเกาะ หาดทราย ลมต๊ะเลกระทบเข้าร่างกาย
ค่าเข้าชม ฟรี
ที่จอดรถ ฟรี มีลานจอดรถ หากเต็มต้องจอดตามไหล่ทางครับ
เวลาแนะนำ 06.00-10.00 น. และ 15.00-18.00 น.
Location :จุดชมวิวเนินนางพญา
ชาวบ้านในระแวกนี้ เป็นหมู่ชาวประมง อยู่ใกล้กับท่าเทียบเรือประมงบ้านหัวแหลม
หมู่ 7 ต.สนามไชย อ.นายายอาม จ.จันทบุรี ลักษณะเด่นของที่นี้ จะมีมีสะพานไม้
พาดโขดหินยื่นออกไปยังทะเล มีความยาวประมาณ 50 เมตร เกิดจากแรงศรัทธาของชาวบ้านในระแวกนั้น
เพื่อเดินทางไปสักการะ เจดีย์บ้านหัวแหลม ซึ่งมีอายุมากกว่า 200 ปีแล้ว
ทั้งนี้เพื่อเป็นที่ยึดเหนื่ยวจิตใจของชาวประมงในระแวกนั้น
จุดชมวิวเจดีย์บ้านหัวแหลม ค่าจอดรถ ฟรี
หรือจอดด้านบน จุดชมวิวเนินนางพญา จากนั้นจะมีวินเป็นซาเล้ง มีค่าบริการคนละ 10 บาท ต่อเที่ยว
Location : จุดชมวิวเจดีย์บ้านหัวแหลม
เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิว ที่อยู่ใกล้ๆกับหาดคุ้งวิมาน และจุดชมวิวเนินนางพญา
บริเวณสถานที่แห่งนั้น ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ปางห้ามสมุทร สามารถมองเห็นวิวทะเลได้รอบข้าง
สุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียวคุณผู้ชม เปิดให้เข้าชมทุกวัน
หากใครที่ชื่นชอบธรรมชาติ เชิงป่าไม้ชายเลนแล้วละก็ สถานที่แห่งนี้ นับได้ว่า
เป็นอีกหนึ่งจุดที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียวฮ่ะ ได้ทั้งสัมผัสกับธรรมชาติโดยตรง ได้ทั้งออกกำลังกายไปในตัว
อีกทั้งยังมีต้นไม้ สัตว์ทะเล ในป่าชายเลนแห่งนี้ ให้เราได้ศึกษา เหมาะกับการเดินทางมาทัศนศึกษา
ทั้งนี้ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริตั้งอยู่บริเวณ อ่าวคุ้งกระเบน
มีพื้นที่ครอบคลุมทั้งหมดประมาณ 4,000 ไร่ หากบริเวณป่าชายเลนริมชายฝั่งทะเลที่จะพาไปชมในวันนี้
มีพื้นที่ราวๆ 200 ไร่เป็นไปตามพระราชประสงค์ใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เพื่อทำการฟื้นฟูและจัดการทรัพยากรชายฝั่งอย่างยั่งยืน
อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางในการอบรมเผยแพร่ความรู้ที่ได้จากการศึกษาวิจัย
นำมาพัฒนาด้านการประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอีกด้วย ที่จอดรถ ฟรี , ค่าเข้าชม ฟรี
Location : ศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบน
นานาชนิด ที่ได้นำมาจัดแสดง ให้ผู้เข้าชมได้ชมฟรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยตั้งชื่อสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ
เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระชนมายุครบ 6 รอบ 72 พรรษา
มี 36 ตู้ปลา มีอุโมงค์ปลาให้ผู้เข้าชมเดินชมปลากแหวกว่ายอยู่เหนือศรีษะ
“จุดชมวิวลานหินสีชมพู” แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดจันทบุรี
ตั้งอยู่ภายในบริเวณเขตห้ามล่าสัตว์คุ้งกระเบน อำเภอท่าใหม่ โดยช่วงเวลาน้ำลงตอนกลางวัน
ตั้งแต่เดือน ก.พ. – มิ.ย. จะเห็นโขดหินสีชมพูอมทับทิม โผล่ขึ้นมาจากพื้นหาดทะเล
เป็นที่นิยมให้ผู้เข้าชมเข้าไปถ่ายภาพกัน แต่สถานที่แห่งนี้มีค่าบริการนิดหน่อยนะครับ
อีกทั้งยังมีบริการกางเต้นท์นอนค้างคืนอีกด้วย
ค่าเข้าชม
เด็ก 10 บาท
ผู้ใหญ่ 20 บาท
ชาวต่างชาติ 200 บาท
รถจักรยานยนต์ 20 บาท
รถยนต์ 60 บาท
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00-17.00
Location : ลานหินสีชมพู
เขาแหลมสิงห์ เป็นภูเขาขนาดเล็ก สูงจากระดับน้ำทะเลราว 170เมตร เหตุที่เรียกชื่อนี้เพราะ
เนื่องจากด้านหน้าเขามีหินเป็นเกาะแก่งยื่นล้ำไปในทะเลรูปคล้ายสิงห์หมอบ มีหัว ลำตัว หาง เท้าและดวงตา
ด้านบนจะมีที่จอดรถและมีจุดชมวิว เมื่อเดินลงไปข้างล่างจะเป็นอ่าวกระทิง
และมีหาดทราย และโขดหินน้อยใหญ่มากมาย ให้เหล่าบรรดานักท่องเที่ยวได้เข้าไปถ่ายรูป
หรือปูเสื่อนอนรับลมทะเลชิลๆกันเลยก็ได้ครับ
เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00 – 18.00 น.
Location : วนอุทยานแหลมสิงห์
อยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศสถึง 11 ปี (พ.ศ.2436 – 2446) สถานที่แห่งนี้มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน
กว่าจะมาเป็นเมืองจันทบุรี และเป็นไทยอยู่ทุกวันนี้บรรพบุรุษของเราต้องแลกกับเลือดเนื้อ ดินแดน
และทรัพย์สิน ด้านนอกจะเป็นตึกคล้ายศาลาลานประชุมที่มีสีแดง ภายในจะมีการจัดป้ายบอกความรู้
ประวัติความเป็นมา และมีปืนใหญ่พบเจอที่ใต้แม่น้ำจันทบุรี บริเวณปากน้ำแหลมสิงห์
จากร่องรอยของตัวปั๊มข้างกระบอกปืน สามารถบอกได้ว่าเป็นปืนของทหารฝรั่งเศสที่อาจจะทำตกน้ำในระหว่างขนขึ้นฝั่ง
และได้สร้างคุกขี้ไก่นี้ขึ้นเพื่อกักขังนักโทษชาวไทยที่ได้ต่อต้านกับชาวฝรั่งเศส ที่มาอยู่ในประเทศไทยนี้
แต่ไม่เคยได้ใช้ พร้อมกับการสร้างตึกแดง ชั้นบนเป็นที่เลี้ยงไก่สำหรับถ่ายมูลใส่หัวนักโทษข้างล่าง
คุกขี้ไก่มีลักษณะเป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมจุตรัสลบเหลี่ยม มีขนาดกว้าง 4 เมตร สูง 10 เมตร
ที่ตั้งของคุกขี้ไก่อยู่หมู่ที่ 1 ตำบลปากแหลมสิงห์ อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี
หาดแหลมสิงห์ เป็นชายหาดสีน้ำตาลอมแดง ปนดินเลนเนื่องจากเป็นปากอ่าวที่แม่น้ำจันทบุรีไหลออกมา
ตั้งอยู่ที่ตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ ห่างจากตัวเมือง 30 กิโลเมตร บริเวณชายหาดแห่งนี้ เมื่อเข้ามาถึงด้านหน้า
จะมีร้านอาหารทะเลมากมาย ให้คุณผู้ชมได้เลือกซื้อนั่งรับประทาน และยังมีโต๊ะนั่งริมชายหาดทะเล
ของแต่ละร้านอีกด้วย ลานจอดรถ ฟรี ค่าเข้าชม ฟรี
ช่วงเวลา 08.00 – 18.00 น.
Location : ชายหาดแหลมสิงห์
ไปเที่ยวก็คือ วันเสาร์-อาทิตย์ ในวันดังกล่าวจะมีผู้คนพลุกพล่าน ได้บรรยากาศในการเดินเที่ยว
ภายในตลาดมีอาหารหวานคาวมากมาย และเครื่องใช้ย้อนยุค และจุดไฮไลท์ของที่นี้คือ
มีจุดถ่ายภาพมากมาย ในแต่ละมุมก็จะแตกต่างกันออกไป
เป็นโบสถ์ที่มีประวัติการก่อสร้างยาวนานถึง 275 ปี .. ครั้งแรกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2254
บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจันทบุรี จนถึงปี พ.ศ. 2377 ได้มีการย้ายมาสร้างบนฝั่งตะวันออก
ของแม่น้ำจันทบุรี อันเป็นสถานที่ตั้งในปัจจุบัน ลักษณะเป็นโบสถ์วัดคาทอลิก
ภายในประดับไปด้วยกระจกสเต็มกลาสสวยงาม
สันนิษฐานว่าสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงสร้างขึ้นเมื่อครั้งเสด็จเข้าเมืองจันทบุรี
เพื่อใช้เป็นที่รวบรวมไพร่พลและเสบียงอาหารก่อนยกทัพไปกอบกู้กรุงศรีอยุธยา
ตามหนังสือพระราชประวัติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชกล่าวไว้ว่า พระองค์ทรงได้เมืองจันทบุรี
เมื่อวันอาทิตย์ แรม 3 ค่ำ เดือน 7 ปีกุน นพศก จุลศักราช 1129 ซึ่งตรงกับวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2310
หากข้อสันนิษฐานดังกล่าวเป็นเรื่องจริงแล้ว ก็อาจสรุปได้ว่า ศาลหลักเมืองจันทบุรีคงสร้างขึ้นในราว พ.ศ. 2310