
1. วัดใหญ่ชัยมงคล Wat Yai Chimongkol
วัดใหญ่ชัยมงคล ถือว่าเป็นวัดมีความสำคัญทางประวัติศาตร์มากที่สุดและเป็นวัดที่นักท่องเที่ยวนิยมมามากที่สุดวัดหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงเป็นธรรมดาที่จะพบเห็นนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมายังวัดแห่งนี้ จุดสนใจของวัดใหญ่ชัยมงคลนี้ คือเรื่องราวทางประวัติศาตร์ในสมัยกรุงศรีอยุธยา รวมไปถึงสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ชมเจดีย์ที่สูงที่สุดในอยุธยา ด้านหลังวัดมีตำหนักสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ให้ผู้นับถือศรัทธาเข้ามากราบไหว้ นอกจากนี้ บริเวณ รอบๆ ยังมีมีสวนหย่อมที่สวยงามให้พักผ่อนอีกด้วยนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเที่ยวอยุธยาจึงไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง

ภายในวัดประกอบด้วยเจดีย์ประธานทรงกลมขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนฐานประทักษิณเป็นประธานของวัดมีระเบียงคดล้อมรอบ ทางด้านทิศตะวันออกเป็นที่ตั้งของพระอุโบสถ ส่วนพระวิหารตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของเจดีย์ประธานในแนวเดียวกัน มีลักษณะแผนผังของวัดเช่นเดียวกับพระอารามหลวงสมัยอยุธยาตอนต้น เช่น วัดมหาธาตุ วัดพระราม และวัดราชบูรณะ เป็นต้น



Location ของวัดใหญ่ชัยมงคล
————————————————
2. วัดมหาธาตุ Wat Mahathat
วัดมหาธาตุ เป็นปูชนียสถาน วัดพระอารามหลวงที่ประทับสมเด็จพระสังฆราชฝ่ายคามวาสี
โดดเด่นด้วยพระปรางประธานบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมพระปรางค์ขนาดกลางเรียงราย
และไฮไลท์ของวัดที่นักท่องเที่ยวจะพลาดไม่ได้ คือ เศียรพระพุทธรูปที่ถูกโอบล้อมด้วยรากโพ


วัดมหาธาตุเป็นหนึ่งในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ. 1917
สมัยขุนหลวงพระงั่ว หรือสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 และมาสร้างแล้วเสร็จในสมัยสมเด็จพระราเมศวร
ในปี พ.ศ. 1927 สมเด็จพระราเมศวรทรงอัญเชิญพระบรมสารีรกธาตุไปบรรจุไว้ในพระปรางค์ประธาน




ชมวิวโบราณสถานยามค่ำคืน
แม้วัดมหาธาตุจะเปิดให้เข้าชมได้ถึง 16.30 น. เท่านั้น ทว่าช่วงเวลา 19.30 -20.00 น.
จะมีการเปิดไฟส่องวัดและองค์พระปรางค์ นักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้าหรือขับรถผ่านรอบนอกวัดและ
ดื่มด่ำกับความงามในยามค่ำคืนได้
Location ของวัดมหาธาตุ
————————————————
3. วัดพระงาม Wat Phra Ngarm
วัดพระงาม คลองสระบัว ตั้งอยู่ตำบลคลองสระบัว อำเภอพระนครศรีอยุธยา เป็นวัดร้างที่มีจุดเด่น คือ
ซุ้มประตูโบราณที่ถูกโอบล้อมด้วยต้นโพธิ์ จนได้รับขนานนานว่า ประตูแห่งกาลเวลา เนื่องจากในยามเย็นจะมีแสงสีทองของพระอาทิตย์สาดส่องลงมายังซุ้มประตูเมื่อเดินผ่านทำให้รู้สึกว่าเหมือนเรากำลังก้าวเดินผ่านช่วงเวลาในปัจจุบันไปยังอดีต คล้ายกับเดินผ่านกระจกในละครเรื่อง ทวิภพ ไปสู่อีกภพหนึ่งในยุคไทยโบราณ

Location ของวัดพระงาม
————————————————
4. ตลาดน้ำอโยธยา Ayothaya Floating Market
ตลาดน้ำอโยธยา หนึ่งในที่เที่ยวตลาดน้ำใกล้กรุงเทพฯ ที่ที่คุณจะเพลิดเพลินกับการเลือกซื้อของกินอร่อย ๆ และช้อปปิ้ง พร้อมของฝากเก๋ๆ และ กับบรรยากาศตลาดน้ำแบบไทย ๆ



ตลาดน้ำอโยธยา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวใจกลางเมือง สะท้อนถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยาทั้งด้านการแต่งกาย การแสดงพื้นบ้าน นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมตลาด เพื่อชิมอาหาร เลือกซื้อของกินของใช้กลับไปเป็นของฝากจากร้านค้าที่ตั้งอยู่เรียงรายภายในเรือนไทยอันงดงามรอบตลาดน้ำ


Location ของ ตลาดน้ำอโยธยา
————————————————
5. วัดการ้อง Wat Tha Ga Rong – ตลาดน้ำกรุงเก่า
วัดท่าการ้อง ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นวัดโบราณมีมาแต่สมัยอยุธยาตอนกลาง โดยการรวมวัด 2วัดเข้าด้วยกัน คือ วัดท่าและวัดการ้อง สร้างขึ้นก่อนราว พ.ศ. 2092 น ประวัติศาสตร์กล่าวว่าสร้างในสมัยสมเด็จพระชัยราชาธิราชสมัยอยุธยาตอนต้น อีกทั้งก่อนอยุธยาจะเสียกรุงบริเวณแห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งค่ายของแม่ทัพใหญ่แห่งพม่า คือ เนเมียวสีหบดี ปัจจุบันยังคงเหลือสถาปัตยกรรมสมัยกรุงศรีอยุธยาหลายแห่งได้แก่ ศาลาการเปรียญไม้สักริมแม่น้ำเจ้าพระยา พระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรัตนมงคลหรือหลวงพ่อยิ้ม ต่อมาในยุคปัจจุบันเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 วัดท่าการ้องได้ถูกดัดแปลงเป็นโรงเรียนนายร้อยฝ่ายช่างเทคนิค โดยได้ใช้ศาลาการเปรียญเป็นห้องเรียน
พุทธศาสนิกชนทั้งไทยและต่างชาติจากทั่วสารทิศยกย่องให้ ด้วยว่าที่นี่แตกต่างจากวัดทั่วไป โดยเนรมิตปรับภูมิทัศน์ด้วยไม้ดอกหลากสีสัน ไม้ประดับนานาพรรณ ตุ๊กตาดินเผาหลายรูปแบบ และส้วมสะอาด ติดแอร์ ปูพรมประดับประดาด้วยม่านระย้า แถมยังมีส้วมสำหรับบรรดา ชายไม่จริง หญิงไม่แท้ไว้ปลดทุกข์อีกต่างหากในแต่ละวันจะมีผู้คนหลั่งไหลมากราบไหว้พระ ขอพรหลวงพ่อยิ้ม พระประธานสมัยอยุธยาที่เก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์





Location ของวัดวัดท่าการ้อง
————————————————
6. ตลาดน้ำกรุงเก่า
ตลาดน้ำกรุงเก่า เข้าไปทางวัดท่าการ้อง ติดริมแม่น้ำ ขนาดตลาดไม่ใหญ่มาก แต่ยิ่งช่วงวันหยุดคนจะเยอะมากมีของขายหลายอย่าง มีทั้งร้านอยู่ข้างบนฝั่ง และขายในเรือ ที่อยู่ตรงกลางระหว่างโป๊ะเรือกับบริเวณฝั่งหลังวัดท่าการ้อง สามารถซื้อของกินแล้วแล้วเอามานั่งทานที่โต๊ะบนฝั่งโป๊ะเรือได้


ตลาดน้ำโบราณที่เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-15.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักำขัตฤกษ์ 10.00-18.00 น.ภายในตลาดน้ำมีการจำน่ายอาหารไทยพื้นบ้าน คาว-หวาน นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพินใจไปกับการเลือกซื้ออาหารหลากหลายบนเรือพาย พร้อมกับให้อาหารปลา



Location ของตลาดกรุงเก่า
————————————————
7. วัดไชยวัฒนาราม Wat Chaiwatthanaram
“วัดไชยวัฒนาราม” วัดโบราณที่สร้างมามากกว่า 300 ปี ปัจจุบันยังคงสวยงามและน่าไปเที่ยว
ชมมาก ๆและยังเป็นสถานที่ถ่ายทำละครอันโด่งดังในยุคทีวีดิจิตัลอย่างเรื่อง “บุพเพสันนิวาส”
ชมมาก ๆและยังเป็นสถานที่ถ่ายทำละครอันโด่งดังในยุคทีวีดิจิตัลอย่างเรื่อง “บุพเพสันนิวาส”


วัดไชยวัฒนาราม ตั้งอยู่ที่ ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งก็ตั้งอยู่ริม แม่น้ำเจ้าพระยาทางฝั่งตะวันตกของเกาะเมือง วัดไชยวัฒนาราม เป็นวัดหนึ่ง ที่มีสถาปัตยกรรมการก่อสร้างไม่เหมือนวัดอื่นๆ ใน อยุธยาและเนื่องจากกรมศิลปากรได้ดำเนินการ บูรณะตลอดมาจนปัจจุบันนักท่องเที่ยวยังคงมองเห็นเค้าแห่งความสวยงามยิ่งใหญ่ตระการตา ซึ่งผู้มาเที่ยวไม่ควรพลาด


เวลาเปิด-ปิดเปิด : ให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30–16.30 น.
อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 50 บาท หรือสามารถซื้อบัตรรวมได้ ชาวไทย 40 บาท
ชาวต่างประเทศ 220 บาท โดยบัตรนี้สามารถเข้าชมวัดและพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ภายในระยะเวลา 30 วัน อันได้แก ่ วัดพระศรีสรรเพชญ์และพระราชวังหลวง วัดมหาธาตุ วัดราชบูรณะ
วัดพระราม วัดมเหยงค์วัดไชยวัฒนาราม
หมายเหตุ ตั้งแต่เวลาประมาณ 19.30- 21.00 น. จะมีการส่องไฟชมโบราณสถาน
Location วัดไชยวัฒนาราม
————————————————
8. วัดพนัญเชิงวรวิหาร Wat Phananchoeng
ตามพงศาวดารเหนือระบุว่า ผู้สร้างวัดพนัญเชิงคือพระเจ้าสายน้ำผึ้ง โดยในยุคแรกนั้นชื่อของวัดแห่งนี้คือ“วัดพระนางเชิง” ซึ่งมีที่มาจากตำนานซึ่งเล่าว่าพระนางสร้อยดอกหมาก พระราชธิดาบุญธรรมในพระเจ้ากรุงจีนซึ่งเดินทางมาอภิเษกสมรสกับพระเจ้าสายน้ำผึ้ง ได้เสียชีวิตลง และมีการจัดพระราชพิธีศพขึ้นที่บริเวณที่ตั้งของวัดพนัญเชิง ซึ่งปัจจุบัน ภายในวัดยังมีตำหนักเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก สถานที่ซึ่งประดิษฐานรูปปั้นเจ้าแม่สร้อยดอกหมากหรือชาวจีนเรียกว่า จู๊แซเนี้ย
วัดพนัญเชิงเคยได้รับความเสียหายในสมัยเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 แต่ก็ได้รับการบูรณะซ่อมแซมมาโดยตลอดจนกระทั่งในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 4 ได้มีการบูรณะพระพุทธรูปประจำวัดพนัญเชิงขึ้นใหม่หมดทั้งองค์ รวมถึงอาคารอื่นๆโดยรอบ ทำให้วัดพนัญเชิงอยู่ในสภาพดีมาจนถึงในปัจจุบัน




Location วัดพระนางเชิง
————————————————
9. วัดพระศรีสรรเพชญ์ Wat Phra Si Sanphet
วัดพระศรีสรรเพชญ์ หรือ วัดพระศรีสรรเพชญ เป็นอดีตวัดหลวงประจำพระราชวังโบราณ อยุธยา
ตั้งอยู่ที่ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทางทิศเหนือของวิหารพระมงคลบพิตร ในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาสร้างชึ้นราวปี พ.ศ. 1991 โดยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ


วัดพระศรีสรรเพชญ์มีจุดที่น่าสนใจที่สำคัญคือ เจดีย์ทรงลังกาจำนวนสามองค์ที่วางตัวเรียงยาวตลอดทิศตะวันออกและทิศตะวันตกของวัด สร้างขึ้นเป็นองค์แรกทางฝั่งตะวันออก เมื่อปี พ.ศ. 2035 โดยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 เพื่อบรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ (พระราชบิดา) ต่อมาในปี พ.ศ. 2042 ก็ทรงให้สร้างเจดีย์องค์ต่อมา (องค์กลาง) ของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 (พระเชษฐาต่างพระมารดาของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2) และเจดีย์ฝั่งตะวันตกของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 และในรัชสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 ก็ทรงสร้างเจดีย์อีกองค์ในฝั่งทิศตะวันตกให้ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 พระราชบิดา รวมเป็นสามองค์ตามปัจจุบัน



หากนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาแล้ว ไม่ควรพลาดที่จะเที่ยวชมความสวยงามของที่นี่ โดยทางอุทยานจะเปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่ 8.00 – 18.00 น. ส่วนช่วงตอนกลางคืนทางอุทยานจะเปิดไฟส่องไปที่พระเจดีย์ และโบราณสถานทำให้นักท่องเที่ยวจะได้รับชมบรรยากาศที่สวยงามไปอีกแบบ แต่นักท่องเที่ยวจะสามารถ ชมได้บริเวณรอบนอกเท่านั้น เพราะจะปิดให้เข้าชมในเวลา 18.00 น. และทางอุทยาน ฯ จะปิดไฟลงในเวลา 21.00 น.
Location วัดพระศรีสรรเพชญ์
————————————————
10. วัดราชบูรณะ Wat Ratchaburana
วัดราชบูรณะ ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของวัดมหาธาตุ มีฐานะเป็นพระอารามหลวงในสมัยอยุธยาภายในวัดประกอบด้วยองค์ปรางค์ประธาน ซึ่งล้อมรอบด้วย ระเบียงคต มีพระวิหารตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก ส่วนพระอุโบสถตั้งอยู่ทางด้านหลังของวัดทางทิศตะวันตกในแนวประธานเดียวกันวัดราชบูรณะโด่งดังมากในเรื่องการขุดพบเครื่องทองมากมายในกรุพระปรางค์ใหญ่และประชาชนยังสามารถลงไปชมภาพจิตรกรรมฝาฝนังสมัยอยุธยาตอนต้นภายในกรุได้ด้วยวัดราชบูรณะจึงเป็นวัดที่นักท่องเที่ยวนิยมเข้าเยี่ยมชมอยู่เป็นประจำสม่ำเสมอ


ปรางค์ประธาน มีขนาดสูงใหญ่ ก่อด้วยศิลาแลงบนฐานสี่เหลี่ยมซึ่งมีเจดีย์อยู่ทั้งสี่ทิศ มีบันไดขึ้นสู่องค์ปรางค์ทางทิศตะวันออกถือเป็นปรางค์แบบไทยที่นิยมทำฐานสูง ต่างจากปรางค์แบบขอมที่มักมีฐานเตี้ย นอกจากนี้หน้าปรางค์เป็นมุขใหญ่ยืนออกมาเป็นห้องคูหา ส่วนยอดเรียวแหลมสูง คล้ายฝักข้าวโพด ยอดมีฝักเพกาในขณะที่ขอมไม่มี



Location วัดราชบูรณะ
เรื่องที่เกี่ยวข้อง

กินไหนดี
ข้อมูลท่องเทียวทั่วประเทศ
ข่าวท่องเที่ยวทั่วไทย
ดาวน์โหลดแผนที่
ธุรกิจ ร้านค้า ของฝาก ของที่ระลึก
นอนไหนดี
พระนครศรีอยุธยา
ภาคกลาง
เที่ยวไหนดี
แนะนำที่พักทั่วประเทศไทย
แนะนำร้านอาหารทั่วประเทศ
แผนที่เส้นทางท่องเที่ยวทั่วไทย
โชว์รูมรถยนต์ รถมอเตอร์ไซต์ จำหน่ายรถยนต์ รถมอตเตอร์ไซต์
ไฮไลท์สถานที่ท่องเที่ยวทั่วไทย